Mobidevthai

อย่างที่เราทราบกันนะครับว่า JavaScript นั้นสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยข้อจำกัด ทำให้ JavaScript API นั่นสามารพัฒนาอยู่บน Web Browser เท่านั้นและด้วยตัว มาตรฐานของมัน ไม่เหมาะกับการใช้พัฒนาในระยะยาวอีกด้วย ซึ่ง Common JS เป็น API ที่เข้ามาเพื่อรองรับกับปัญหาดังกล่าวนี้ โดยตัว API ของ Common JS นั้นได้ทำการร รวบรวม Library ของ Python, Ruby และ Java มาไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถเข้าถึง Application ที่ถูกพัฒนา Complier ด้วย Javascript API ที่แตกต่างกันได้อีกด้วย นั่นหมายความว่า เราสามารถนำ Java script มาใช้พัฒนา Application ต่าง ๆ ได้เช่น

• Server-side JavaScript applications

• Command line tools

• Desktop GUI-based applications

• Hybrid applications (Titanium, Adobe AIR)

หรือหมายความว่าเราสามารถเขียน Javascript เพื่อไปรันที่อื่น ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ Web Browser เพื่อ รัน Script นั่นเอง

หลังจากหยุดเขียนไปซักพัักเนื่องจาก ไปติด NoSQL อยู่เลยทำให้ไม่มีโอกาศเขียน วันนี้เลยถือโอกาศมาเขียนบทความเพิ่มเติมให้ได้อ่านกัน แต่วันนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ก่อนละกันนะครับ นั่นก็คือ การแสดงตัวเลขบน icon ของ Application นั่นเองครับ

บทความนี้ผมจะขอไปที่ Android ซะหน่อย โดยปกติแล้วบน Android จะมีปุ่มที่เป็นทั้ง Hardware และ Softkey มาให้ด้วย นั่นก็คือ ปุ่ม Menu นั่นเองครับ ปุ่ม Menu นี้เอาไว้ใช้ในกรณีที่ต้องการให้ในหน้าจอของโปรแกรมต่าง ๆ ที่เราพัฒนาขึ้นมีตัวเลือกให้กับผู้พัฒนาในการใส่คำสั่งหรืออื่น ๆ ที่ไม่ต้องการให้แสดงอยู่บนหน้าจอนั่นเองครับ

บทความนี้เราจะมาด้วยเรื่องเบา ๆ กันนะครับนันก็คือ TabGroup Badge นั่นเองครับ

ใน  Window และ View ทั้งหลายนั้น มี Property อยู่หนึ่งอย่างที่ทำให้เราสามารถเลือกวาง Object ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบียบเรียบร้อย​ซึ่ง Property นั้นก็คือ layout นั่นเองครับ

ในบทความนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่ติดอยู่กับ Android และ iPhone สิ่งนั้นก็คือ Map นั่นเองครับ

ในบทความนี้ จะเป็นการเปิด Photo Gallery เพื่อเลือก ภาพที่อยู่ในเครื่องมาทำการแสดงบน Application ครับการแสดงภาพอันนี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบบนเครื่องจริง ๆ ก็ได้ครับ  สามารถทดสอบบน Emulator ได้เลยครับ เพียงแต่ใน Emulator นั้นต้องมีรูปภาพอยู่เท่านั้นเอง

ในบทความนี้ จะเป็นการใช้งานกล้องถ่ายรูป เพื่อให้สามารถถ่ายภาพโดยผ่าน Application ที่เขียนขึ้นมาเองได้นะครับ โดยการทดสอบทั้งหมดจะต้องไปทำการทดสอบบน Device จริง ๆ กัน ทั้ง บน iOS และ Android ส่วนวิธีการนำ Application ไปทดสอบนั้น ผมได้เคยกล่าวไปแล้วในบทความ ทดสอบ บนเครื่องจริง สำหรับ Android และ ทดสอบบนเครื่อง สำหรับ iOS ส่วนวิธีการเรียกใช้งาน กล้องถ่ายรูปใน Application นั้นทำอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ

สำหรับ iOS นั้นหากเราต้องการที่จะนำ Application ที่เราพัฒนาขึ้นมานั้นไปรันบน Device จริง ๆ นั้นเราต้องมีดังนี้

• iDevice (iPhone, iPod Touch , iPad)
• Apple ID ที่เป็น Developer (สมัครได้ที่ developer.apple.com ค่าใช้จ่าย $99 ต่อปีครับ)
• Development Provisioning Profile
• Xcode
• เครื่อง Mac
• Mac OS X

หากมีทุกอย่างข้างต้นครบแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยครับ คลิกที่ Menu Run แล้วเลือกเป็น iOS Device

จากการที่เราได้ทำการ สร้าง Application เพื่อให้ทำงานบน Emlator แล้ว ทีนี้เราจะลองเอาไปรันบนเครื่องจริง ๆ กันครับบทความนี้จะกล่าวถึงการ นำ Application ที่เราทำไว้แล้วไปรันทดสอบบนเครื่องจริง ๆ กัน สิ่งที่เราต้องมีครับ

• Android 1 เครื่อง
• สาย USB

อันดับแรกครับ เราเอา Android ของเรา เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก่อนเลยครับ (สำหรับผู้ใช้ Windows ต้องติดตั้ง Driver ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ)  จากนั้นทำการเปิด  USB Debugging ที่โทรศัพท์  โดยไปที่ Setting -> Applications -> Development  เลือก USB Debugging  ครับ  จากนั้นกลับมาที่ Titanium Studio ครับ เลือกที่ ปุ่ม Run แล้วก็เลือก Android Device ครับ


จากนั้นก็รอจนกว่าจะเจอ Message  แบบนี้ครับ

แล้วก็ไปที่ โทรศัพท์ ของคุณ รันโปรแกรมที่ได้พัฒนาได้แล้วหล่ะครับ หากไม่มีการเปลี่ยน icon ของตัว Application ตัว Application จะเป็นรูป Logo ของ Titanium นะครับ

ในบทความนี้เราจะกล่าวถึง  Web View นะครับ Web View คืออะไร  มันก็คือ View ที่เอาไว้เปิดแสดง Web หรือ Content ที่เป็น HTML นั่นเองครับ

บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Image View กันนะครับ จากชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่ามันคือ View ที่เอาไว้แสดง รูปภาพ นั่นเองครับ

Scrollable  View คือ Container สำหรับจัดเก็บ View เพื่อแสดงในรูปแบบของ Paging เพื่อให้เห็นภาพได้ง่าย ๆ ให้นึกถึง Photo Gallery ใน โทรศัพท์​ของพวกเรา ครับ เอาหล่ะครับ เราไปเริ่มกันดีกว่าครับ ว่า มันใช้งานอย่างไร

บทความนี้เราจะมาทำการรู้จักกับ ScrollView กันนะครับ Scroll View เป็น View ประเภทหนึ่งครับ ที่สามารถเลื่อนขึ้นลง , ซ้ายขวา ได้ ตามแต่ที่ เราทำการ ตั้งค่า เอาไว้

หลังจากที่เรารู้จักกับ Alert Dialog ไปแล้ว ก็​มาถึง Dialog อีกประเภทหนึ่งที่ถูกเรียกใช้งานค่อนข้างบ่อย นั่นก็คือ Option Dialog นั่นเองครับ หน้าตาของ Option Dialog เป็นแบบนี้ครับ

Opton Dialog

จากที่ผ่าน ๆ มานั้นเราได้เรียนรู้วิธีการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้าง UI ต่าง ๆ ไปแล้ว และในบทความนี้จะกล่าวถึง สิ่งที่เอาไว้โต้ตอบ เตือน หรือ สอบถาม กับผู้ใช้ ซึ่งนั่นก็คือ Dialog ซึ่ง Dialog ที่เราจะกล่าวถึงใน บทความนี้ก็คือ Alert Dialog นั่นเองครับ

Alert Dialog

Container อีกประเภทหนึ่งที่ถูกใช้่ค่อนข้างบ่อยใน Applicatoin หลาย ๆ ตัว น้่นก็คือ Tab Group นั่นเองครับ โดยที่  TabGroup  ในบทความนี้จะทำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ Tab Group มากยิ่งขึ้น เรามาเริ่มกันเลยนะครับ

หลังจากที่เราได้รู้จัก Object ต่าง ๆ กันไปพอสมควร วันนี้ผมก็จะนำเสนอ Container อีกประเภทหนึ่ง ที่ใช้กันบ่อยมาก ๆ เลยนะครับ Container นั้นก็ คือ TableView นั่นเองครับ ด้วยตัวชื่อก็ บอกอยู่แล้วครับว่า มันคือ Table แล้วมันสามารถทำอะไรได้บ้างเราไปดูกันครับ เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยคำสั่ง

เมื่อเรารู้จักกับการสร้าง Windows และ Object พิ้นฐานไปบ้างแล้ว สิ่งต่อมาที่เราควรจะต้องรู้จักนั่นก็คือ View นั่นเองครับ

View เป็น Container สำหรับวาง Object ต่าง ๆ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับ Window เพียงแต่ไม่สามารถสั่ง Open หรือ Close ได้ สามารถกำหนดรูปแบบการแสดงได้หลากหลาย โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ Object View เพื่อการแสดงผลในส่วนต่าง ๆ ของ Window  อีกด้วย โดยที่เราสามารถสร้าง View ได้ด้วยคำสั่ง

สำหรับในบทความนี้นั้นเราจะกล่าวถึง Input Box ประเภท Text นั่นก็คือ TextField และ TextArea นั่นเองครับ ทั้ง 2 Object นี้ มีความสำคัญต่อการพัฒนาโปรแกรมบน มือถือ มากพอสมควรครับ เนื่องจากมันจะเป็นที่รองรับการ Input ข้อมูลต่าง ๆ ที่  User ได้ทำการพิมพ์เข้ามานั่นเอง โดยที่ทั้ง 2 ตัวนั้น มีึความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ลองไปดูกันครับ