Mobidevthai

สวัสดีครับ หลังจากห่างหายจากการเขียน บทความไปหลายสัปดาห์ วันนี้ผมขอกลับเข้าไปเรื่องของ Contact ใน Mobile Device ของทุก ๆ ท่านก่อนละกันนะครับ โดยปกติแล้วใน OS ไม่ว่าจะทั้ง iOS หรือ Android นั้นจะมีโปรแกรม อยู่หนึ่งตัวสำหรับการจัดเก็บรายชื่อต่าง ๆ สำหรับเอาไว้โทรหา หรือ ทำการ ส่ง Email หรือ อื่น ๆ ซึ่งวันนี้ผมจะเสนอเกี่ยวกับการเข้าถึง รายชื่อต่าง ๆ แบบง่าย ๆ กันครับ

เมื่อวันที่ 12/11/2012 ทาง Appcelerator ได้ออก Update Titanium SDK 2.1.4 มาให้ได้ทำการ Update กัน การ Update ใน Version นี้จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันครับ



Titanium SDK 2.1.4 นี้เป็นการ แก้บั๊กที่พบเจอในVersion ก่อนหน้านี้นะครับ โดยมีการแก้ไข Bug ดังนี้ครับ

เนื่องจากในปัจจุบันนั้นการดึงข้อมูลจาก Provider ต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากหากเราต้องจัดเกบข้อมูลเองทั้งหมดคงไม่เป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน จึงทำให้เกิด Service ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น RESTful และ SOAP ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้จะเป็นมาตรฐานการรับส่งข้อมูลในรูปแบบของ Web Service ที่ปัจจุบันมีใช้กันอย่างแพร่หลาย และการที่เราต้องการข้อมูลประเภทนี้ ทาง Appceletor ผู้พัฒนา Titanium Studio ได้สร้าง API ตามมาตรฐานของ XMLHttpRequest และ API ที่เราจะทำการเรียกใช้นั่นก็คือ

Titanium.Network.HTTPClient

หลังจากที่เราได้รู้จักกับ JSON ไปแล้วในบทความ JSON คืออะไร มาถึงบทความนี้ก็จะกล่าวถึงวิธีการนำ JSON มาใช้ใน Titanium Mobile ครับ

JSON ย่อมาจาก คำว่า JavaScript Object Notation เป็นฟอร์แมตสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลคอมพิวเตอร์ ฟอร์แมต JSON นั้นอยู่ในรูปข้อความธรรมดา (plain text) ที่ทั้งมนุษย์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถอ่านเข้าใจได้


มาตรฐานของฟอร์แมต JSON คือ RFC 4627  มี Internet media type เป็น application/json และมีนามสกุลของไฟล์เป็น .json

SQLite เป็น Database ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมสำหรับ Application ที่ทำงานบน Smart Phone ทั้ง iOS และ Android ซึ่งมีรูปแบบการทำงานแบบ Standalone คือ ทำงานอยู่ใน Application นั้น ๆ โดย SQLite นั้นมีโครงสร้างที่ง่ายต่อการจัดเก็บและมีขนาดเล็กมาก จึงเหมาะกับการทำงานบน Smart Phone เป็นอย่างยิ่ง

ในบทความนี้ผมจะกล่าวถึง View อีกชนิดหนึ่งที่ใช้ได้เฉพาะใน iOS เท่านั้น สามารถเพิ่ม ลบ หรือ เคลื่อนย้าย Icon ที่อยู่บน View ได้โดยเราเรียก View ประเภทนี้ว่า Dashboard View ครับ

จากที่ได้เคยกล่าวถึง Titanium.App ใน รู้จักกับ Titanium.App ตอนท้ายของบทความผมได้กล่าวเอาไว้ถึงการใช้งาน Event ของ Titanium.App เอาไว้ในบทความนี้เราไปดูกันครับว่า มันใช้งานอย่างไร

ไม่ทราบว่าเคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ว่า Application ที่เราได้พัฒนากันขึ้นมา ตอนเปิดหน้า Window แรกทำไมมันแค่แสดงขึ้นมาโดยที่มันไม่มี Effect เลย ไม่ว่าจะพลิกซ้าย พลิกขวา หรือ เปิดขึ้นเหมือนเราเปิดหนังสือ โดยบน Titanium เองมีวิธีการง่าย ๆ มาให้ครับ แต่จะทำอย่างไรกันนั้นเราไปดูกันครับ

สวัสดีครับบทความนี้จะกล่าวถึง Module ที่อยู่ใน Level สูงสุดของ Titanium ครับนั่นก็คือ Module Titanium.App

หลังจากที่เราได้รู้จักกับ CommonJS ไปแล้วในบทความ รู้จักกับ Common JS นั้นในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการเขียน Module ให้อยู่ใน รูปแบบ ของ Common JS เพื่อที่จะนำมาใช้ ใน Titanium Studio นี้ครับ

อย่างที่เราทราบกันนะครับว่า JavaScript นั้นสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยข้อจำกัด ทำให้ JavaScript API นั่นสามารพัฒนาอยู่บน Web Browser เท่านั้นและด้วยตัว มาตรฐานของมัน ไม่เหมาะกับการใช้พัฒนาในระยะยาวอีกด้วย ซึ่ง Common JS เป็น API ที่เข้ามาเพื่อรองรับกับปัญหาดังกล่าวนี้ โดยตัว API ของ Common JS นั้นได้ทำการร รวบรวม Library ของ Python, Ruby และ Java มาไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถเข้าถึง Application ที่ถูกพัฒนา Complier ด้วย Javascript API ที่แตกต่างกันได้อีกด้วย นั่นหมายความว่า เราสามารถนำ Java script มาใช้พัฒนา Application ต่าง ๆ ได้เช่น

• Server-side JavaScript applications

• Command line tools

• Desktop GUI-based applications

• Hybrid applications (Titanium, Adobe AIR)

หรือหมายความว่าเราสามารถเขียน Javascript เพื่อไปรันที่อื่น ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ Web Browser เพื่อ รัน Script นั่นเอง

ตอนนี้ Titanium SDK ได้ออก Update เป็น Version 2.1.3 แล้วนะครับโดยมีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ เข้าไปพอสมควร หลัก ๆ เลยคงเป็นเรื่องของการ สนับสนุน iPhone 5 และ iOS6 ครับ แต่จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ

บทความนี้ผมจะขอไปที่ Android ซะหน่อย โดยปกติแล้วบน Android จะมีปุ่มที่เป็นทั้ง Hardware และ Softkey มาให้ด้วย นั่นก็คือ ปุ่ม Menu นั่นเองครับ ปุ่ม Menu นี้เอาไว้ใช้ในกรณีที่ต้องการให้ในหน้าจอของโปรแกรมต่าง ๆ ที่เราพัฒนาขึ้นมีตัวเลือกให้กับผู้พัฒนาในการใส่คำสั่งหรืออื่น ๆ ที่ไม่ต้องการให้แสดงอยู่บนหน้าจอนั่นเองครับ

บทความนี้เราจะมาด้วยเรื่องเบา ๆ กันนะครับนันก็คือ TabGroup Badge นั่นเองครับ

ใน  Window และ View ทั้งหลายนั้น มี Property อยู่หนึ่งอย่างที่ทำให้เราสามารถเลือกวาง Object ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบียบเรียบร้อย​ซึ่ง Property นั้นก็คือ layout นั่นเองครับ

ในบทความนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่ติดอยู่กับ Android และ iPhone สิ่งนั้นก็คือ Map นั่นเองครับ

ในบทความนี้ จะเป็นการเปิด Photo Gallery เพื่อเลือก ภาพที่อยู่ในเครื่องมาทำการแสดงบน Application ครับการแสดงภาพอันนี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบบนเครื่องจริง ๆ ก็ได้ครับ  สามารถทดสอบบน Emulator ได้เลยครับ เพียงแต่ใน Emulator นั้นต้องมีรูปภาพอยู่เท่านั้นเอง

ในบทความนี้ จะเป็นการใช้งานกล้องถ่ายรูป เพื่อให้สามารถถ่ายภาพโดยผ่าน Application ที่เขียนขึ้นมาเองได้นะครับ โดยการทดสอบทั้งหมดจะต้องไปทำการทดสอบบน Device จริง ๆ กัน ทั้ง บน iOS และ Android ส่วนวิธีการนำ Application ไปทดสอบนั้น ผมได้เคยกล่าวไปแล้วในบทความ ทดสอบ บนเครื่องจริง สำหรับ Android และ ทดสอบบนเครื่อง สำหรับ iOS ส่วนวิธีการเรียกใช้งาน กล้องถ่ายรูปใน Application นั้นทำอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ

สำหรับ iOS นั้นหากเราต้องการที่จะนำ Application ที่เราพัฒนาขึ้นมานั้นไปรันบน Device จริง ๆ นั้นเราต้องมีดังนี้

• iDevice (iPhone, iPod Touch , iPad)
• Apple ID ที่เป็น Developer (สมัครได้ที่ developer.apple.com ค่าใช้จ่าย $99 ต่อปีครับ)
• Development Provisioning Profile
• Xcode
• เครื่อง Mac
• Mac OS X

หากมีทุกอย่างข้างต้นครบแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยครับ คลิกที่ Menu Run แล้วเลือกเป็น iOS Device